พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญหลวงพ่อสิ...
เหรียญหลวงพ่อสิงห์ทอง วัดสามัคคีวัฒนา หล่มสัก เพชรบูรณ์ ปี 2518
เหรียญหลวงพ่อสิงห์ทอง ปี2518 สร้างในโอกาสที่ระลึกครบรอบ 76 ปี ตอกโค๊ต สวย เดิม
หลวงพ่อสิงห์ทอง วัดสามัคคีวัฒนา ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ท่านเป็นเกจิย์ยุคเดียว กับหลวงพ่อทบครับ ท่านเป็นพระพระอุปัชฌาย์ ของ หลวงปู่เปรื่อง ฐานังกโร วัดสันติวัฒนา ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
พระอาจารย์สิงห์ทอง สุวณฺณธมฺโม
(ท่านพระครูสุธรรมคณี)
วัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
วัดสามัคคีวัฒนา เดิมชื่อว่า “วัดในสะทอน” เป็นวัดเก่าแก่เคยเป็นวัดร้างมาครั้งหนึ่ง ต่อมาปี พ.ศ.2478 พระอาจารย์โชติได้เดินธุดงค์มาจากจังหวัดอุดรธานี ได้ชักชวนญาติโยมมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้จนเป็นที่ประกอบศาสนกิจสืบต่อมาจนทุกวันนี้
พระอาจารย์สิงห์ทอง สุวณฺณธมฺโม หรือท่านพระครูสุธรรมคณี ท่านเคยครองเป็นเจ้าอาวาส วัดสามัคคีวัฒนา (ธ)ตั้งแต่ พ.ศ.2504 และท่านเคยเป็น เจ้าคณะอำเภอหล่มสัก (ธรรมยุต) และท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของ “หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกโร” แห่งวัดสันติวัฒนา พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในยุคปัจจุบันแห่งเมืองหล่มสักอีกด้วย
พระครูสุธรรมคณี เดิมท่านชื่อ “สิงห์ทอง ศรีสุข” เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2442 ณ บ้านน้ำเฮี้ย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 4 คนของ นายหำ นางบัวศรี ศรีสุข บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๑ ขวบ ณ วัดจอมแจ้ง ศึกษาหาความรู้จนจบชั้น ป.4 พออายุครบ 20 ปีก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิษุ จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองไขว่ ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก ตอนนั้นท่านได้เรียนหนังสือเพิ่มเติมจนจบชั้น ม.3 ซึ่งถือว่าเรียนได้สูงมากพอที่จะประกอบอาชีพสบายๆและมีเกียรติได้ แต่ท่านก็ไม่ประสงค์เช่นนั้น เพราะท่านได้ตัดกิเลสใน ลาภ ยศ สรรเสริญแล้ว แม้ท่านได้รับการชักจูงจากพ่อแม่พี่น้องก็ตาม ท่านได้ตั้งมั่นในจิตอันแน่วแน่ว่าจะเจริญตามพระตถาคต และขอพลีชีวิตเพื่อบวรพระพุทธศาสนาสืบไป
ในระหว่างการอยู่ในสมณเพศนี้ ท่านจึงได้ออกจาริกแสวงหาพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางวิปัสสนาธุระ เพื่อขอศึกษาความรู้และบำเพ็ญตน เป็นสมณะฝ่ายอรัญวาสี ใฝ่หาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ในการนี้ท่านต้องใช้ชีวิตผจญภัยในป่าลึกเป็นเวลาอันยาวนานจนบางครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด หากไม่มีพลังจิตอันมั่นคงไว้ยึดมั่น ท่านได้พบกับพระอาจารย์จรูญ ที่วัดวังหว้า อ.หล่มเก่า และพระอาจารย์หลายคณะที่วัดบ้านหนองเล อำเภอเดียวกัน ท่านก็ได้ฝากตัวเรียนวิชาจนจบแล้วออกธุดงค์ต่อไป พบกับพระอาจารย์พระครูอดิสัยคณาธารที่วัดศรีสะอาด จังหวัดเลย ที่วัดนี้ท่านได้กระทำญัตติเป็นพระธรรมยุตินิกาย โดยมีท่านพระครูอดิสัยคุณาธาร (หลวงพ่อศรีจันทร์) เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้นพระอาจารย์สิงห์ทองได้ธุดงค์ไปพบ พระอาจารย์เคลือบ ที่วัดบ้านแก่งม่วง อ.เชียงคาน จ.เลย แล้วล่องเรือไปตามลำน้ำโขง ถึง จ.หนองคาย พบกับพระอาจารย์สุวรรณที่ท่าบ่อ และพระอาจารย์อื่นๆอีกมาก ตามเส้นทางผ่านจังหวัดหนองคาย อุดรธานี และสกลนคร ในที่สุดท่านได้มาพบกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ได้ศึกษาเล่าเรียนด้วยกันกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นพระที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน พระอาจารย์สิงห์ทองกับพระอาจารย์ฝั้นมีความชอบพอกันมากจึงได้ชวนกันเดินธุดงค์มาด้วยกัน ถึงจังหวัดนครพนม อุบลราชธานี
นอกจากนี้พระอาจารย์สิงห์ทอง ยังได้เคยเรียนวิชาอยู่กับพระอาจารย์มั่น –พระอาจารย์เสาร์อีกด้วย หลังจากที่ได้ธุดงค์ถึง 10 ปีแล้ว ท่านได้เดินทางกลับบ้านเดิมทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สร้างสรรความเจริญให้แก่ท้องถิ่น ช่วยเหลือประชาชนตามกำลังความสามารถ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านมาก
ภาระกิจอันแรกที่ท่านได้สร้างในท้องถิ่นของท่านก็คือ การสร้างวัดโนนแก้ว ต.น้ำเฮี้ย อ.หล่มสัก เมื่อ พ.ศ.2481 ต่อมาท่านได้สร้างวัดชนวารี ที่บ้านน้ำอ้อม เมื่อปี พ.ศ.2494 และในปีนี้เองที่ท่านได้รับตำแหน่งเป็น พระครูสังฆรักษ์ ในฐานานุกรมของพระอมราภิรักขิต และเป็นเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก (ธรรมยุต) ต่อมา พ.ศ.2495 ได้เลื่อนเป็นพระครูชั้นโท ที่ “ พระครูสุธรรมคณี ”
พ.ศ.2504 วัดสามัคคีวัฒนาซึ่งเป็นวัดใหญ่วัดหนึ่งของอำเภอหล่มสัก ขาดแคลนพระสงฆ์จึงได้ไปนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส หลังจากนั้นไม่กี่ปีวัดสามัคคีวัฒนาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมาก เพราะพระอาจารย์สิงห์ทองท่านเป็นพระนักพัฒนาอยู่แล้ว
ด้วยผลงานอันมากมายที่ปรากฏอยู่ภายในวัดนี้ และด้วยความสามารถของท่านในการปกครองสังคมสงฆ์ ท่านจึงได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูชั้นเอกในนามเดิม” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2516
การสร้างวัตถุมงคลของพระอาจารย์สิงห์ทอง แห่งวัดสามัคคีวัฒนา
เมื่อท่านมาครองวัดสามัคคีวัฒนา ได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถ และประกอบพิธีผูกพัทธสีมาขึ้น ในปี พ.ศ.2506 งานนี้ทางวัดได้ออกเหรียญที่ระลึกเป็น เหรียญเสมา โดยด้านหน้าเป็นรูป “พระพุทธโสธร” ด้านหลังระบุวาระการจัดสร้างว่า “ งานผูกพัทธสีมาวัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มศักดิ์ 2506”
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯได้พระราชทานพระพุทธบาทจำลองแก่วัดสามัคคีวัฒนา เพื่อเป็นการฉลององค์พระพุทธบาทจำลองนี้ทางวัดจึงได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นมาโดยเป็นเหรียญทรงกลมมีหูในตัว ด้านเป็นรูปองค์สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ ด้านหลังเป็นรูปรอยพระพุทธบาทจำลอง พร้อมระบุชื่อ วัดสามัคคีวัฒนา พ.ศ.2513
ครั้นเมื่อ พ.ศ.2518 หลวงพ่อสิงห์ทอง มีอายุครบ 76 ปี คณะศิษยานุศิษย์เห็นว่าท่านก็ชรามากแล้วและยังไม่เคยสร้างเหรียญที่ระลึกของท่านออกมาเลย จึงได้ขออนุญาตท่านจัดสร้างวัตุมงคลรุ่นแรกของท่านออกมา โดยนำรายได้ไปใช้ในการสร้างศาลาการเปรียญและสร้างหอตรัยรัตน์เพื่อใช้ประดิษย์ฐานองค์พระพุทธบาทจำลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานถวายไว้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2513 ซึ่งหลวงพ่อสิงห์ทองท่านก็ได้อนุญาตให้สร้างตามความประสงค์และท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้ให้เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2518 ระหว่างเวลา 9.17 น. วัตถุมงคลชุดนี้ประกอบด้วย รูปหล่อลอยองค์ เหรียญรูปไข่ พระปรกใบมะขาม และเหรียญขวัญถุง
และในปลายปี 2518 นี้เช่นกันคณะศิษย์ก็ได้ขออนุญาตท่านสร้างรูปหล่อสิงห์ทองนำโชค ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งท่านก็อนุญาตให้จัดสร้างโดยเงินรายได้นำมาปฏิสังขรณ์วัดสามัคคีวัฒนา โดยท่านทำพิธีปลุกเสกในวันที่ 2 ธันวาคม 2518 ในพิธีบังเกิดมีแสงสว่างพวยพุ่งรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นกลางพิธีดังปาฏิหารย์ สำแดงให้เห็นประจักษ์ในพุทธานภาพและอำนาจกฤตยาคุณ
พ.ศ.2519 มีการจัดสร้างเหรียญโภคทรัพย์ ในวาระโอกาสที่ท่านมีอายุครบ 77 ปี เป็นเหรียญกลม ไร้ห่วง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อสิงห์ทอง มีการตอกโค๊ดและหมายเลข ด้านหลังระบุ “วัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ อายุ 77 ปี พ.ศ.2519 “
พ.ศ.2520 มีการจัดสร้างเหรียญหล่อกระไหล่และลงยาหลายสีสวยงามมากเป็นรุ่นพิเศษ ชื่อรุ่น "สิงห์ทองมรกตมหาลาภ"
ผู้เข้าชม
3792 ครั้ง
ราคา
500
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
Kshop
ชื่อร้าน
บีริช พระเครื่อง /ชลบุรี
ร้านค้า
kom9.99wat.com
โทรศัพท์
0813493478
ไอดีไลน์
berichshop2009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
963-2-219xx-x042-8-677xx-x
พระชัยวัฒน์ใหญ่ เนื้อนวะโลหะ ว
เหรียญท้าวสหบดีพรหม รุ่นสร้างม
เหรียญระเบิดมหายันต์พระเจ้าตาก
เหรียญ อาร์ม พิมพ์ใหญ่ "หลวงพ่
เหรียญ " หลวงปู่เหยี่ยว วัดศาล
เหรียญกรมหลวงชุมพร หลังหลวงพ่อ
เหรียญหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ
เหรียญ พระสังกัจจายน์ วัดห้วยม
เหรียญหลวงพ่อคูณ มนต์พระกาฬปรา
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ว.ศิลป์สยาม
Le29Amulet
เจริญสุข
mon37
Manas094
ยุ้ย พลานุภาพ
ทองธนบุรี
ภูมิ IR
gorn9
chaithawat
แหลมร่มโพธิ์
นิสสันพระเครื่องหนองคาย
ก้อง วัฒนา
TotoTato
someman
Netnapa
Mannan4747
pratharn_p
Kshop
fuchoo18
ศรัทธา
มนต์เมืองจันท์
พล ปากน้ำ
nattapong939
ep8600
แมวดำ99
พระเครื่องโคกมน
aofkolok
kaew กจ.
stp253
ผู้เข้าชมขณะนี้ 793 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญหลวงพ่อสิงห์ทอง วัดสามัคคีวัฒนา หล่มสัก เพชรบูรณ์ ปี 2518
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญหลวงพ่อสิงห์ทอง วัดสามัคคีวัฒนา หล่มสัก เพชรบูรณ์ ปี 2518
รายละเอียด
เหรียญหลวงพ่อสิงห์ทอง ปี2518 สร้างในโอกาสที่ระลึกครบรอบ 76 ปี ตอกโค๊ต สวย เดิม
หลวงพ่อสิงห์ทอง วัดสามัคคีวัฒนา ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ท่านเป็นเกจิย์ยุคเดียว กับหลวงพ่อทบครับ ท่านเป็นพระพระอุปัชฌาย์ ของ หลวงปู่เปรื่อง ฐานังกโร วัดสันติวัฒนา ต.สักหลง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
พระอาจารย์สิงห์ทอง สุวณฺณธมฺโม
(ท่านพระครูสุธรรมคณี)
วัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
วัดสามัคคีวัฒนา เดิมชื่อว่า “วัดในสะทอน” เป็นวัดเก่าแก่เคยเป็นวัดร้างมาครั้งหนึ่ง ต่อมาปี พ.ศ.2478 พระอาจารย์โชติได้เดินธุดงค์มาจากจังหวัดอุดรธานี ได้ชักชวนญาติโยมมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้จนเป็นที่ประกอบศาสนกิจสืบต่อมาจนทุกวันนี้
พระอาจารย์สิงห์ทอง สุวณฺณธมฺโม หรือท่านพระครูสุธรรมคณี ท่านเคยครองเป็นเจ้าอาวาส วัดสามัคคีวัฒนา (ธ)ตั้งแต่ พ.ศ.2504 และท่านเคยเป็น เจ้าคณะอำเภอหล่มสัก (ธรรมยุต) และท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ของ “หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกโร” แห่งวัดสันติวัฒนา พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในยุคปัจจุบันแห่งเมืองหล่มสักอีกด้วย
พระครูสุธรรมคณี เดิมท่านชื่อ “สิงห์ทอง ศรีสุข” เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2442 ณ บ้านน้ำเฮี้ย อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 4 คนของ นายหำ นางบัวศรี ศรีสุข บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๑ ขวบ ณ วัดจอมแจ้ง ศึกษาหาความรู้จนจบชั้น ป.4 พออายุครบ 20 ปีก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิษุ จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองไขว่ ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก ตอนนั้นท่านได้เรียนหนังสือเพิ่มเติมจนจบชั้น ม.3 ซึ่งถือว่าเรียนได้สูงมากพอที่จะประกอบอาชีพสบายๆและมีเกียรติได้ แต่ท่านก็ไม่ประสงค์เช่นนั้น เพราะท่านได้ตัดกิเลสใน ลาภ ยศ สรรเสริญแล้ว แม้ท่านได้รับการชักจูงจากพ่อแม่พี่น้องก็ตาม ท่านได้ตั้งมั่นในจิตอันแน่วแน่ว่าจะเจริญตามพระตถาคต และขอพลีชีวิตเพื่อบวรพระพุทธศาสนาสืบไป
ในระหว่างการอยู่ในสมณเพศนี้ ท่านจึงได้ออกจาริกแสวงหาพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทางวิปัสสนาธุระ เพื่อขอศึกษาความรู้และบำเพ็ญตน เป็นสมณะฝ่ายอรัญวาสี ใฝ่หาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ในการนี้ท่านต้องใช้ชีวิตผจญภัยในป่าลึกเป็นเวลาอันยาวนานจนบางครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด หากไม่มีพลังจิตอันมั่นคงไว้ยึดมั่น ท่านได้พบกับพระอาจารย์จรูญ ที่วัดวังหว้า อ.หล่มเก่า และพระอาจารย์หลายคณะที่วัดบ้านหนองเล อำเภอเดียวกัน ท่านก็ได้ฝากตัวเรียนวิชาจนจบแล้วออกธุดงค์ต่อไป พบกับพระอาจารย์พระครูอดิสัยคณาธารที่วัดศรีสะอาด จังหวัดเลย ที่วัดนี้ท่านได้กระทำญัตติเป็นพระธรรมยุตินิกาย โดยมีท่านพระครูอดิสัยคุณาธาร (หลวงพ่อศรีจันทร์) เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้นพระอาจารย์สิงห์ทองได้ธุดงค์ไปพบ พระอาจารย์เคลือบ ที่วัดบ้านแก่งม่วง อ.เชียงคาน จ.เลย แล้วล่องเรือไปตามลำน้ำโขง ถึง จ.หนองคาย พบกับพระอาจารย์สุวรรณที่ท่าบ่อ และพระอาจารย์อื่นๆอีกมาก ตามเส้นทางผ่านจังหวัดหนองคาย อุดรธานี และสกลนคร ในที่สุดท่านได้มาพบกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ได้ศึกษาเล่าเรียนด้วยกันกับพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นพระที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน พระอาจารย์สิงห์ทองกับพระอาจารย์ฝั้นมีความชอบพอกันมากจึงได้ชวนกันเดินธุดงค์มาด้วยกัน ถึงจังหวัดนครพนม อุบลราชธานี
นอกจากนี้พระอาจารย์สิงห์ทอง ยังได้เคยเรียนวิชาอยู่กับพระอาจารย์มั่น –พระอาจารย์เสาร์อีกด้วย หลังจากที่ได้ธุดงค์ถึง 10 ปีแล้ว ท่านได้เดินทางกลับบ้านเดิมทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สร้างสรรความเจริญให้แก่ท้องถิ่น ช่วยเหลือประชาชนตามกำลังความสามารถ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านมาก
ภาระกิจอันแรกที่ท่านได้สร้างในท้องถิ่นของท่านก็คือ การสร้างวัดโนนแก้ว ต.น้ำเฮี้ย อ.หล่มสัก เมื่อ พ.ศ.2481 ต่อมาท่านได้สร้างวัดชนวารี ที่บ้านน้ำอ้อม เมื่อปี พ.ศ.2494 และในปีนี้เองที่ท่านได้รับตำแหน่งเป็น พระครูสังฆรักษ์ ในฐานานุกรมของพระอมราภิรักขิต และเป็นเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก (ธรรมยุต) ต่อมา พ.ศ.2495 ได้เลื่อนเป็นพระครูชั้นโท ที่ “ พระครูสุธรรมคณี ”
พ.ศ.2504 วัดสามัคคีวัฒนาซึ่งเป็นวัดใหญ่วัดหนึ่งของอำเภอหล่มสัก ขาดแคลนพระสงฆ์จึงได้ไปนิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส หลังจากนั้นไม่กี่ปีวัดสามัคคีวัฒนาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมาก เพราะพระอาจารย์สิงห์ทองท่านเป็นพระนักพัฒนาอยู่แล้ว
ด้วยผลงานอันมากมายที่ปรากฏอยู่ภายในวัดนี้ และด้วยความสามารถของท่านในการปกครองสังคมสงฆ์ ท่านจึงได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น “พระครูชั้นเอกในนามเดิม” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2516
การสร้างวัตถุมงคลของพระอาจารย์สิงห์ทอง แห่งวัดสามัคคีวัฒนา
เมื่อท่านมาครองวัดสามัคคีวัฒนา ได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถ และประกอบพิธีผูกพัทธสีมาขึ้น ในปี พ.ศ.2506 งานนี้ทางวัดได้ออกเหรียญที่ระลึกเป็น เหรียญเสมา โดยด้านหน้าเป็นรูป “พระพุทธโสธร” ด้านหลังระบุวาระการจัดสร้างว่า “ งานผูกพัทธสีมาวัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มศักดิ์ 2506”
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯได้พระราชทานพระพุทธบาทจำลองแก่วัดสามัคคีวัฒนา เพื่อเป็นการฉลององค์พระพุทธบาทจำลองนี้ทางวัดจึงได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นมาโดยเป็นเหรียญทรงกลมมีหูในตัว ด้านเป็นรูปองค์สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ ด้านหลังเป็นรูปรอยพระพุทธบาทจำลอง พร้อมระบุชื่อ วัดสามัคคีวัฒนา พ.ศ.2513
ครั้นเมื่อ พ.ศ.2518 หลวงพ่อสิงห์ทอง มีอายุครบ 76 ปี คณะศิษยานุศิษย์เห็นว่าท่านก็ชรามากแล้วและยังไม่เคยสร้างเหรียญที่ระลึกของท่านออกมาเลย จึงได้ขออนุญาตท่านจัดสร้างวัตุมงคลรุ่นแรกของท่านออกมา โดยนำรายได้ไปใช้ในการสร้างศาลาการเปรียญและสร้างหอตรัยรัตน์เพื่อใช้ประดิษย์ฐานองค์พระพุทธบาทจำลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานถวายไว้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2513 ซึ่งหลวงพ่อสิงห์ทองท่านก็ได้อนุญาตให้สร้างตามความประสงค์และท่านได้ปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้ให้เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2518 ระหว่างเวลา 9.17 น. วัตถุมงคลชุดนี้ประกอบด้วย รูปหล่อลอยองค์ เหรียญรูปไข่ พระปรกใบมะขาม และเหรียญขวัญถุง
และในปลายปี 2518 นี้เช่นกันคณะศิษย์ก็ได้ขออนุญาตท่านสร้างรูปหล่อสิงห์ทองนำโชค ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งท่านก็อนุญาตให้จัดสร้างโดยเงินรายได้นำมาปฏิสังขรณ์วัดสามัคคีวัฒนา โดยท่านทำพิธีปลุกเสกในวันที่ 2 ธันวาคม 2518 ในพิธีบังเกิดมีแสงสว่างพวยพุ่งรุ่งโรจน์ปรากฏขึ้นกลางพิธีดังปาฏิหารย์ สำแดงให้เห็นประจักษ์ในพุทธานภาพและอำนาจกฤตยาคุณ
พ.ศ.2519 มีการจัดสร้างเหรียญโภคทรัพย์ ในวาระโอกาสที่ท่านมีอายุครบ 77 ปี เป็นเหรียญกลม ไร้ห่วง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อสิงห์ทอง มีการตอกโค๊ดและหมายเลข ด้านหลังระบุ “วัดสามัคคีวัฒนา อ.หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ อายุ 77 ปี พ.ศ.2519 “
พ.ศ.2520 มีการจัดสร้างเหรียญหล่อกระไหล่และลงยาหลายสีสวยงามมากเป็นรุ่นพิเศษ ชื่อรุ่น "สิงห์ทองมรกตมหาลาภ"
ราคาปัจจุบัน
500
จำนวนผู้เข้าชม
3797 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
Kshop
ชื่อร้าน
บีริช พระเครื่อง /ชลบุรี
URL
http://www.kom9.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0813493478
ID LINE
berichshop2009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 963-2-219xx-x
4. ธนาคารกสิกรไทย / 042-8-677xx-x
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี